วิธีปลูกมะเขือ ที่ใช้รับประทานได้ทุกวัน ในโลกของเรามีมะเขืออยู่หลายชนิด และแต่ละชนิดก็จะมีหน้าตาและรสชาติที่ต่างกัน เราเชื่อว่าในชีวิตประจำวัน เพื่อนต้องเคยรับประทานมะเขือในชีวิตประจำวันแน่นอน บทความของเราในวันนี้มี วิธีปลูกมะเขือ ที่ใช้รับประทานได้ทุกวัน ส่วนวิธีการปลูกจะเป็นอย่างไร และจะทำยากง่ายแค่ไหน ตามไปดูพร้อมกันได้เลย
วิธีการปลูกมะเขือ 5 ชนิด ที่ใช้รับประทานได้ทุกวัน

1. มะเขือเทศ
เริ่มกันที่มะเขือเทศ หรือ Tomato ที่เราคุ้นหน้าตาเป็นอย่างดีก่อนเลยค่ะ สำหรับวิธีการปลูกมะเขือเทศ ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมเพาะเมล็ดแล้วย้ายกล้า โดยให้หยอดเมล็ดลงในดินเพาะที่เตรียมไว้ จนอายุ 25-30 วัน ค่อยย้ายไปปลูกในดินจริง ซึ่งต้องขุมหลุมให้ลึก 20 เซนติเมตร เว้นระยะพอสมควร รวมถึงทำค้างให้เลื้อยด้วย ที่สำคัญควรปลูกมะเขือเทศช่วงปลายฝน
ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เน่าเสียง่าย ส่วนการดูแลก็ไม่ยาก โตได้ในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนปนทรายเป็นพิเศษ ส่วนการดูแลรดน้ำต้องชุ่มเสมอทั้งเช้าและเย็น แต่ระวังอย่าให้น้ำขัง เพราะอาจจะทำให้รากเน่า และตายในที่สุดได้นั่นเองค่ะ

2. มะเขือเปราะ
ถัดมาเป็นมะเขือเปราะ หรือ Thai Eggplant ที่ถือเป็นมะเขืออีกแบบ ที่พบมาเหลือเกินในอาหารไทยรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งวิธีการปลูกมะเขือแบบนี้ ให้เริ่มจากเตรียมแปลงปลูกและผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมีให้พร้อม จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน ค่อยมาผสมดิน 3 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน และทรายหรือแกลบ 1 ส่วนลงในถาดเพาะกล้า แล้วหยอดเมล็ดลงไป คอยรดน้ำเช้า-เย็น จนกล้ามีใบจริงขึ้นมา 3-4 ใบ หรือมีอายุ 15 วัน ค่อยย้ายลงดินปลูก และอย่าลืมกลบดินและรดน้ำให้ชุ่มนะคะ เพราะมะเขือชนิดนี้ชอบน้ำมาก ช่วงแรกควรรดทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น หลังจากนั้นให้ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จนเหลือประมาณ 2วัน/ครั้ง เมื่อมีอายุ 65-90 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้วค่ะ

3. มะเขือพวง
มะเขือพวง หรือ Plate Brush Eggplant เป็นมะเขือลูกเล็ก ๆ ที่เราเห็นบ่อยในเมนูน้ำพริกกะปิ โดยวิธีการปลูกให้เพาะกล้าด้วยการหว่านเมล็ดลงในกระบะเพาะ แล้วรดน้ำให้ชุ่มเช้า-เย็น จนกว่ากล้าจะมีใบจริงประมาณ 3-4 ใบ ค่อยย้ายลงแปลงปลูก ซึ่งแปลงปลูกต้องเตรียมดินไว้ก่อนประมาณ 7-10 วัน จากนั้นใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักให้เรียบร้อย ค่อยนำกล้ามาปลูก เว้นระยะห่างให้เหมาะสม กลบโคนให้แน่น คลุมด้วยฟางข้าว และรดน้ำให้ชุ่มสม่ำเสมอ แต่ต้องระวังอย่าให้แฉะ หมั่นดูแลกำจัดวัชพืชเป็นประจำ ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมีได้ตามสมควร โดยมะเขือพวงเป็นไม้กลางแจ้ง ที่ทนความร้อนและแล้งได้ดี จึงดูแลไม่ยาก ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่ค่อยมีปัญหาพืชหรือแมลงรบกวน แถมยังเก็บเกี่ยวได้เป็นเวลานานด้วยนะคะ

4. มะเขือม่วง
มะเขือม่วง หรือ Eggplant ถือเป็นพืชที่เอามาทำเมนูต่าง ๆ ที่อร่อยได้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นผัด ทอด หรือแกง ซึ่งวิธีการปลูกให้เพาะกล้าในกระบะ โดยผสมดินร่วนกับปุ๋ยคอกในอัตรา 1:3 ส่วน แล้วหยอดเมล็ดลงในหลุ่ม เกลี่ยดินกลบ รดน้ำให้ชุ่ม รอจนกล้ามีใบจริง 3-5 ใบ ค่อยย้ายไปปลูกในดินที่ดี มีการรองพื้นด้วยปุ๋ยคอกและกำจัดวัชพืชออกทั้งหมด ซึ่งก่อนจะใส่กล้าลงในหลุม ควรรดน้ำให้ชุ่มก่อน อย่าลืมเว้นระยะห่างให้เหมาะสม กลบโคนต้น และรดน้ำให้ชุ่มอีกครั้งด้วย ส่วนการดูแล ช่วงแรกให้รดน้ำทุกวัน แล้วค่อยลดลงมาเรื่อย ๆ จนเหลือวันเว้นวัน ใส่ปุ๋ย 2 ครั้ง คือ หลังปลูก 20-25 วัน กับอายุประมาณ 45-50 วัน และหมั่นกำจัดวัชพืชจนกว่าต้นจะมีอายุ 3 เดือน รับรองว่าผลดกสวยแน่นอนค่ะ

5. มะเขือยาว
มะเขือยาว ให้เริ่มต้นปลูกด้วยการการเพาะกล้า โดยปรับหน้าดินให้เรียบ แล้วหว่านเมล็ดให้กระจายทั่วแปลง กลบด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก พร้อมคลุมด้วยฟางบาง ๆ ดูแลรดน้ำให้ชุ่มสม่ำเสมอจนกว่าต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ค่อยย้ายลงแปลงปลูก โดยในส่วนของแปลงปลูก ต้องเตรียมดินปลูกให้ลึกประมาณ 10-20 นิ้ว และตากทิ้งไว้ 7-10 วันก่อน อย่าลืมใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยรองพื้นให้เรียบร้อย จากนั้นนำมาปลูกได้ ทั้งนี้ควรเว้นระยะห่างระหว่างแถวและระหว่างต้นพอสมควร ดูแลรดน้ำเป็นประจำทุกวัน พรวนดินกำจัดวัชพืชเสมอ ใส่ปุ๋ยช่วยบ้างเล็กน้อย พออายุประมาณ 60-80 วัน ก็จะเก็บเกี่ยวมากินได้แล้วล่ะค่ะ
หากใครอยากมีมะเขือแสนอร่อยรับประทานทุกวัน ลองเอาวิธีการปลูกมะเขือทั้ง 5 ชนิดที่เราแนะนำไปปรับใช้ได้เลย รับรองว่าได้ผลผลิตปัง ๆ แน่นอน อ่านบทความน่ารู้อื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ของเรา khaohitit