Skip to content
Menu
khaohitit
khaohitit
เตือน! 6 โรคอันตราย ที่มาพร้อมกับหน้าหนาว

เตือน! 6 โรคอันตราย ที่มาพร้อมกับหน้าหนาว

Posted on ตุลาคม 16, 2020ตุลาคม 16, 2020

เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศก็จะเริ่มเย็นลง ทำให้อุณหภูมิในร่างกายมีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้อากาศที่เย็นลงเช่นนี้ยังเป็นการเอื้อต่อการอยู่รอด และแพร่กระจายของไวรัสได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเพื่อน ๆ จึงป่วยได้ง่ายกว่าปกตินั่นเอง เมื่อรู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นจะป่วยเป็น 6 โรคอันตราย ที่มาพร้อมกับหน้าหนาว ส่วนโรคดังกล่าวจะมีอะไรบ้าง ตามไปศึกษาข้อมูลพร้อมกันได้เลยค่ะ

6 โรคอันตราย ที่มาพร้อมกับหน้าหนาว

1. ไข้หวัด

ไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ เชื้อที่พบบ่อยคือเชื้อ “ไรโนไวรัส” (Rhinovirus) โดยผู้ป่วยมักมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม คันคอ นำมาก่อน จากนั้นจะเริ่มมีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยตามตัว

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลไข้หวัด

ควรรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เป็นต้น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ ควรสวมหน้ากากอนามัย เมื่อต้องอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่มาจากการ ไอและจาม

ไข้หวัด

2. ไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ มีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดาแต่รุนแรงกว่า และหากปล่อยไว้จนมีอาการแทรกซ้อนอาจทำให้เสียชีวิตได้ ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส “อินฟลูเอนซา” (Influenza virus) ทางระบบทางเดินหายใจอย่างเฉียบพลัน ทำให้มีอาการ หนาวสั่น ไข้ขึ้นสูง เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและศีรษะอย่างรุนแรง และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีบริการตามโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วไป นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ช้อน เป็นต้น และควรใส่หน้ากากอนามัย เมื่อต้องอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่ เจลแอลกอฮอล์ หรือเช็ดมือด้วยทิชชูเปียก เป็นต้น

ไข้หวัดใหญ่

3. ปอดบวม

ปอดบวม คือภาวะปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส จนทำให้มีหนองและสารปนเปื้อนภายในถุงลม ผู้ป่วยมักมีอาการ คือ ไอ จาม มีเสมหะมาก แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก คัดจมูก หนาวสั่น มีไข้สูงติดต่อกันเกิน 2 วัน ปอดบวมมักพบหลังจากการเป็นไข้หวัดเรื้อรัง และในผู้ป่วยโรคหอบหืด ปอดบวมมักพบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กเล็กอายุระหว่าง 5 – 10 ปี

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลปอดบวม

อาการปอดบวมส่วนใหญ่มักเริ่มจากการเป็นไข้หวัด ดังนั้นเมื่อรู้ว่าเริ่มเป็นไข้หวัด ให้รีบรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน พยายามดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก สำหรับเด็กเล็กควรฉีดวัคซีนป้องกันปอดบวม หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และหมั่นรักษาความสะอาด ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย

ปอดบวม

4. หัด

หัด เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า “รูบีโอราไวรัส” (Rubeola virus) เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กเล็ก อาการของโรคจะคล้ายไข้หวัด คือมีไข้ มีน้ำมูก มักไอแห้งตลอดเวลา ตาและจมูกแดง โดยมักมีไข้สูงประมาณ 3 – 4 วันติดต่อกัน จากนั้นจึงขึ้นผื่นแดง ตามร่างกาย โดยผื่นจะค่อย ๆ โตขึ้น และมีสีเข้มขึ้น อาการที่สังเกตได้ว่าจะเป็นหัดคือ ผู้ป่วยมักมีตุ่มใส ๆ ขึ้นในปาก ตรงกระพุ้งแก้มและฟันกราม ซึ่งเป็นตุ่มที่เกิดเฉพาะในโรคหัดเท่านั้น หลังจากผื่นออกประมาณ 2 – 3 วัน อาการก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และหายได้เอง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ โรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม อุจจาระร่วง สมองอักเสบ และหูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น ทั้งนี้หัดจะติดต่อทางลมหายใจ ไอ จาม กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดโรคนี้คือวัยเด็กช่วงอายุ 5 – 9 ปี

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลโรคหัด

วิธีที่ดีที่สุดคือ การฉีดวัคซีนรวม หัด หัดเยอรมันและคางทูม จะช่วยป้องกันโรคหัดได้ โดยปัจจุบันเด็กทุกคนจะได้รับวัคซีนนี้เมื่ออายุ 9 – 12 เดือน และต้องฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 6 ปี

หัด

5. อุจจาระร่วง

เป็นโรคที่มาพร้อมกับฤดูหนาว ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส “โรต้า” (Rotavirus) มักพบในเด็ก อายุต่ำกว่า 5 ปี โดยกลุ่มที่พบบ่อยที่สุดคือเด็กอายุ 6 – 12 เดือน เพราะเด็กวัยนี้ยังมีภูมิต้านทานต่ำและมักมีพฤติกรรมหยิบสิ่งของเข้าปาก ซึ่งเพิ่มโอกาสให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น

อาการคือ มีไข้ ถ่ายเหลวและอาเจียนอย่างหนัก จนอาจเกิดภาวะขาดน้ำรุนแรงถึงขั้นช็อกหรือเสียชีวิตได้ ดังนั้นหากผู้ป่วยมีอาการตามที่กล่าวมา ควรพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลจากอุจจาระร่วง

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรต้าไวรัส ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดรับประทาน โดยมีทั้งชนิด 2 หรือ 3 ครั้ง แล้วแต่ชนิดของวัคซีน เด็กสามารถรับได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือน วัคซีนจะช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรค และลดความรุนแรงลงได้อีกปัจจัยสำคัญไม่แพ้กันคือ ต้องรักษาสุขอนามัยภายในบ้าน เพื่อป้องกันเด็กหยิบจับสิ่งของแล้วติดเชื้อ ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แออัดหรือย่านชุมชน ก็จะช่วยป้องกันโรคได้ส่วนหนึ่ง

อุจจาระร่วง

6. โรคไข้สุกใส

โรคไข้สุกใส มักระบาดในช่วงปลายฤดูหนาวคือเดือนมกราคม – มีนาคม เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส “วาริเซลลา” (Varicella virus) หรือไวรัส “เฮอร์ปีส์ในมนุษย์ชนิดที่ 3” (Human herpesvirus type 3) ติดต่อได้โดยการสัมผัสตุ่มน้ำใสโดยตรง หรือการสัมผัสของใช้ของผู้ป่วยเช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า เช็ดตัว ผ้าห่ม ที่นอน หรือสูดหายใจเอาละอองของตุ่มน้ำเข้าไป

พบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี อาการแรกเริ่มจะคล้ายๆ ไข้หวัดใหญ่คือ ผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามร่างกาย แต่จะมีผื่นแดงหรือตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกาย มีอาการคัน ต่อมาจะกลายเป็นหนอง หลังจากนั้นจะแห้งและตกสะเก็ดภายใน 5 – 10 วัน และอาการไข้ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลไข้สุกใส

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไข้สุกใส โดยฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยเป็น ก็สามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันได้เช่นกัน โรคนี้ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัส ฉะนั้นเมื่อพบผู้ที่เป็นโรคนี้ ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน หรือสัมผัสถูกตัวกัน แต่ผู้ที่เคยเป็นโรคไข้สุกใสแล้วจะไม่เป็นซ้ำ จึงอยู่ร่วมกับผู้ที่เป็นโรคได้ตามปกติ

โรคไข้สุกใส

และทั้งหมดนี้ คือ 6 โรคอันตราย ที่มักระบาดในช่วงฤดูหนาว เพราะอากาศเย็น ๆ เช่นนี้สามารถติดต่อได้ง่าย เช่น การไอ จาม สัมผัส หรือใช้สิ่งของร่วมกัน ดังนั้นเพื่อน ๆ ควรดูแลร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รักษาความสะอาด ล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งสกปรก โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหรือผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคโลหิตจาง ควรดูแลร่างกายเป็นพิเศษ เนื่องจากมีระดับภูมิต้านทานต่ำ ฉะนั้นหนาวนี้ดูแลสุขภาพกันให้ดี ๆ นะคะ

บทความที่น่าสนใจกับ มาทำความรู้จักโรคเกล็ดเลือดต่ำ ( THROMBOCYTOPENIA ) และ วิตามินและอาหารเสริม 9 ชนิด ที่กินแล้วดีกับร่างกายแน่นอน

เรื่องล่าสุด

  • Twitter และ Snap เพิ่มผู้ใช้ตามข้อจำกัดที่ง่ายขึ้น
  • ศิลปะสามารถนำการฟื้นฟูสีเขียวจากการระบาดใหญ่ได้หรือไม่
  • Sorbs: ชนกลุ่มน้อยในเยอรมนี
  • Apple ยอมจ่ายเงินหลายล้าน สำหรับเคสใส่รูปถ่ายสำหรับซ่อม iPhone
  • น้องเหมียวสำหรับคนเป็นภูมิแพ้

Related Post

fit-dee

น้องแมว 5 สายพันธุ์ ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย

ไอเทมเด็ดในการตั้งแคมป์ ที่สายแฟชั่นระดับลักชูรี่ห้ามพลาด

รู้จัก 3 อันดับโรคร้าย ที่คนไทยเป็นกันมากที่สุด

CATEGORY

  • ไอที
  • ART
  • ท่องเที่ยว
  • บันเทิง
  • สุขภาพ
  • สัตว์
  • เกษตร
  • เรื่องรอบตัว

ป้ายกำกับ

3 คาเฟ่ห้ามพลาด 4 เรื่องต้องรู้ ก่อนเล่น SLOT 6 โรคอันตราย ที่มาพร้อมกับหน้าหนาว 8 ผลไม้น้ำตาลน้อย http://jokerx2.com / Joker123 เว็บพนันออนไลน์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย Robot Lawn Mowe Robot Lawn Mower หุ่นยนต์สุดเจ๋ง SLOT Thrombocytopenia ข้อดีของการเลือกเล่น “เกมสล็อตออนไลน์” คาเฟ่ คาเฟ่สุดชิค คาเฟ่สุดชิคย่านอารีย์ คาเฟ่ฮิปเตอร์ ชมหิน ทานมะเขือ ธรรมชาติ นาฬิกา ปลูกมะเขือ มะเขือ มะเขือที่ทานได้ มะเร็งปากมดลูก วิธีปลูกมะเขือ สถานที่ท่องเที่ยว สล็อต สล็อตออนไลน์ สล็อนออนไลน์ สัตว์ สัตว์เศรษฐกิจ หุ่นยนต์ Robot Lawn Mower หุ่นยนต์ตัดหญ้า หุ่นยนต์สุดเจ๋ง เกมเมอร์ เทคนิคปลูกผัก 9 ชนิด บนคอนโด สำหรับชีวิตคนเมือง เที่ยวชมหิน เมืองแห่งสตรีทอาร์ต เลี้ยงสัตว์สร้างรายได้ เล่นสล็อตฟรี เล่นเกมสล็อตออนไลน์ สร้างรายได้ให้แก่นักเดิมพัน แชร์ทริคใส่ปุ๋ยต้นไม้ใหม่อย่างไร ให้แข็งแรงและโตไว แนะนำ 5 สายพันธุ์สุนัขน่าเลี้ยง! โน๊ตบุ๊ค โน๊ตบุ๊คเกมนิ่ง โน๊ตบุ๊คเล่นเกม ไอที

คลังเก็บ

  • กรกฎาคม 2021
  • มิถุนายน 2021
  • พฤษภาคม 2021
  • เมษายน 2021
  • มีนาคม 2021
  • กุมภาพันธ์ 2021
  • มกราคม 2021
  • ธันวาคม 2020
  • พฤศจิกายน 2020
  • ตุลาคม 2020
  • กันยายน 2020

Recommend Post

it4chanel

สุดยอด 5 กีฬา สำหรับน้องหมา

7 เมนูฮิตของประเทศลาว ที่ไม่ควรพลาด!

รัฐประหารเมียนมา: ทหารบล็อก Facebook เพื่อ ‘ความมั่นคง’

เปิดกรุ 7 รองเท้าสำหรับการวิ่ง ที่มาแรงมาก ๆ ในปี 2021

ทำไมถึงต้องเล่น slotxo เรามีคำตอบ

รวมแนวทางหาเงินออนไลน์

alllimitez

Copyright ©2023 khaohitit. All rights reserved.