ย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนคนอาจเรียกคนที่ขีด ๆ เขียน ๆ ภาพในที่สาธารณะว่าคนมือบอน แต่เดี๋ยวนี้ภาพกราฟฟิตี้ (Grafffiiti) กลายเป็น “สตรีทอาร์ต” (street art) หรืองานศิลปะบนถนนแล้วค่ะ และยังเริ่มถูกยอมรับกันทั่วไปในฐานะงานศิลปะที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ ปัจจุบันสตรีทอาร์ตและกราฟฟิตีเข้ามามีบทบาททางด้านการสื่อสารต่อผู้คนมากขึ้น ที่เชื่อมโยงวัฒนธรรม สังคม ศาสนา การเมืองของท้องถิ่นได้มากที่สุด
เมื่อเทียบกับศาสตร์แขนงอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนอดีต บอกเล่าปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งบทบาทในการชี้นำทิศทางของผู้คนในอนาคต วันนี้เราจึงได้รวบรวมสตรีทอาร์ตจากทั่วโลกมาให้ทุกคนได้รู้จักกัน จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ

1. Melbourne ประเทศออสเตรเลีย
ถือเป็นเมืองยอดฮิตแห่งหนึ่งในออสเตรเลียของเหล่าสายอาร์ตเลยก็ว่าได้ เพราะคุณสามารถหาพื้นที่ชื่นชมศิลปะและวัฒนธรรมได้มากมายทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นสตรีทอาร์ทหรือศิลปะข้างถนน แกลเลอรีที่เต็มไปด้วยศิลปะอันน่าตื่นตา หรือจะเป็นโรงละครและโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังดี ๆ มากมาย ไปเที่ยวเมลเบิร์น แล้วเดินถ่ายภาพศิลปะกราฟฟิตี้ของเมืองเมลเบิร์นที่ Hosier Lane และ AC/DC Lane แหล่งที่คุณจะเจองานศิลป์ที่ไม่เหมือนใคร เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Urban Art หรือศิลปะเมืองในนิวยอร์ก เหล่าศิลปินใน เมลเบิร์น จึงได้เริ่มสร้างสรรค์ผลงานสตรีทอาร์ตตามชานเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรียแห่งนี้ในช่วงทศวรรษ 1970 ตั้งแต่นั้นมา เทรนด์ศิลปะนี้ก็ทำให้ เมลเบิร์น กลายเป็นเมืองแห่งสตรีทอาร์ตเลยก็ว่าได้ สไตล์ศิลปะอันมีเอกลักษณ์เหล่านี้ก็ยังนำไปสู่งานศิลปะผ่านลายฉลุ จนทำให้ เมลเบิร์น ได้รับการขนานนามว่า “เมืองศิลปะผ่านลายฉลุของโลก (Stencil Capital of the World)” ไปโดยปริยาย

2. Lisbon ประเทศโปรตุเกส
Lisbon เมืองหลวงของโปรตุเกส มีความสัมพันธ์กับกราฟฟิตี้มายาวนานแล้ว ตั้งแต่สมัยหลังการปฏิวัติในปี 1974 คนจนใช้วิธีระบายความอัดอั้นผ่านการพ่น tag (ชื่อที่ใช้ในการพ่นงาน) และพ่นสาดข้อความไว้ตามกำแพงและพื้นถนนของเมือง Lisbon จัดเป็น 1 ใน 10 เมืองที่มีเสน่ห์น่าค้นหาที่สุดของโลก มีผลงานสตรีทอาร์ตมากมายที่น่าสนใจ จุดที่ไม่ควรพลาดคือ ย่าน Mouraria Alfama และ Bairro Alto ซึ่งเต็มไปด้วยงานลายเส้นสนุก ๆ และสีสันสดใส บ้างเป็นลายเส้นเรียบง่าย สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ตลอดเส้นทางการเดินชม จนผ่านไปหลายสิบปี มีสตรีทอาร์ติสหน้าใหม่เกิดขึ้น พวกเขาสร้างงานด้วยพื้นฐานของการมองว่า มันคือ ‘ศิลปะ’ ในขณะที่คนในชุมชนยังติดกับภาพเดิม ๆ จึงไม่เคยสนใจ ‘ขยะ’ เหล่านั้นเลย และแม้จะมีงานที่ ‘เจ๋งจริง’ แทรกตัวให้เห็น แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีงานสไตล์ ‘พ่นแหลก’ ปะปนอยู่จนแยกไม่ออกว่าอันไหนศิลปะหรือความเสื่อมโทรม กลุ่มสตรีทอาร์ติสจึงวางแผนทำงานร่วมกันเพื่อหวังสร้างความเข้าใจใหม่ที่ถูกต้องให้กับชุมชน โดยเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวกับแคมเปญรีไซเคิลที่มีการเพ้นท์รถขนขยะและถังขยะนำไปวางไว้ทั่วเมือง จนเกิดเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างชุมชนกับศิลปะ ซึ่งคนในชุมชนเริ่มหันมามองด้านดีของสตรีทอาร์ตและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แคมเปญนี้จัดได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นเองก็มีวิสัยทัศน์ที่ดี โดยในเมื่อจุดเด่นของเมืองคือศิลปะข้างถนนอยู่แล้ว

3. Bangkok ประเทศไทย
กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งเมืองในเอเชียซึ่งมีผลงานศิลปะบนท้องถนนที่ได้รับความสนใจจากศิลปินและนักเดินทางทั่วโลกไม่แพ้ปีนัง มาเลเซีย จุดเด่นของผลงานคือการสะท้อนตัวตน ความรู้สึก และเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้ชัดเจน จุดชมสตรีทอาร์ตเด่น ๆ เช่น ตั้งแต่ถนนเจริญกรุง จนถึงย่านเยาวราช และถนนสุรวงศ์ เป็นผลงานของ BUKRUK URBAN ARTS 2016 เชื่อว่าเด็กฮิปสเตอร์ เด็กแนว และวัยรุ่นหลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของเทศกาลสตรีทอาร์ตที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ กันมาบ้าง เพราะก่อนหน้าที่ BUKRUK(บุกรุก) URBAN ARTS เคยสร้างสีสันให้เมืองกรุงเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คราวนี้เขากลับมาอีกครั้ง! งานเพ้นท์ชิค ๆ คูล ๆ ของศิลปินไทยกับศิลปินฝั่งยุโรปมาปะทะและสร้างสรรค์งานสนุกๆ บนกำแพงไปทั่วกรุงเทพฯ

4. Bugis ประเทศสิงคโปร์
Kampong Glam ศูนย์รวมวิถีชีวิตคนท้องถิ่นชาวมาเลย์ และเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ภาษามาเลย์ คำว่า กำปง หมายถึง “หมู่บ้าน” ส่วนคำว่า กลาม หรือ กีลาม คือ ต้นเสม็ดขาว ที่ขึ้นอยู่มากมายในย่านนี้ นำมาใช่ในการต่อเรือ ใช้เป็นยารักษาโรค และเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร และเป็นโซนที่มีสตรีทอาร์ตจุดถ่ายรูปมากที่สุด อาทิเช่น Satay Club and Kampong Gelam ผลงานชิ้นนี้ “Satay Club” วาดโดย Yip Yew Chong ( YipYc ) ศิลปินภาพ จิตรกรรมฝาผนัง ( Singapore Mural ) ชื่อดังของสิงคโปร์ ฝากผลงานชิ้นสำคัญไว้มากมาย “Satay Club” วาดโดย Yip Yew Chong อยู่หน้าโรงแรม Hotel Nuve ถนน Jalan Pinang ซึ่งเป็นถนนสายเล็ก ๆ ที่แยก มาจาก ถนน Victoria สุดถนนจะเป็นที่ตั้งของ Masjid Sultan ศูนย์รวมจิตใจของคนมุสลิมในย่านนี้ “Kampong Gelam” วาดโดย Yip Yew Chong เช่นกัน ภาพนี้ก็อยู่ ข้าง ๆ Satay Club

5. Valparaíso ประเทศชิลี
สตรีทอาร์ตในชิลีเกิดขึ้นในรูปแบบการแสดงความคิดเห็นอย่างโจ๋งครึ่ม แต่เงียบเชียบ และปลอดภัย ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารของนายพลออกุสโต ปิโนเชต์ (Augusto Pinochet) ขณะที่คนท้องถิ่นบางคนก็เล่าว่า สตรีทอาร์ตในชิลีเริ่มต้นหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1980 ในขณะที่ชาวเมืองกำลังช่วยกันฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเมืองนั้น ปาโบล เนรูดา กวีและฮีโร่ชื่อดังของชิลีก็ไปชักชวนเพื่อนศิลปินจากหลายประเทศให้มาช่วยกันวาดภาพบนผนัง เพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้าน แต่ไม่ว่าวัฒนธรรมสตรีทอาร์ตในชิลีจะเริ่มต้นด้วยวิธีไหน อีกไม่กี่ทศวรรษถัดมา ศิลปินในชิลีก็เริ่มจับทางของตัวเองได้ แล้วก็ค่อย ๆ พัฒนากลายมาเป็นลักษณะสตรีทอาร์ตแบบที่เห็นในปัจจุบัน
นอกจากเมืองหลวงอย่างซานติอาโกแล้ว อีกเมืองที่มีสตรีทอาร์ตให้ดูทุกหัวมุมตึกคือ บัลปาราอีโซ (Valparaíso) เมืองท่าริมทะเลที่อยู่ห่างจากซานติอาโกด้วยรถบัสไม่กี่ชั่วโมงนี้ เดิมทีเป็นเมืองที่เรือทุกลำต้องหยุดพักก่อนเดินทางต่อไปสหรัฐอเมริกาในสมัยตื่นทอง แต่หลังจากคลองปานามาถูกขุดขึ้นในปี ค.ศ. 1914 การเดินทางอ้อมทวีปอเมริกาใต้ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ทำให้บัลปาราอีโซไม่ใช่เมืองที่ ‘ต้องแวะ’ และเมืองก็เข้าสู่ยุคถดถอย จนกระทั่งการมาถึงของวัฒนธรรมสตรีทอาร์ต ที่ทำให้บัลปาราอีโซกลับมามีที่ยืนในสายตาของนักเดินทางอีกครั้ง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเมืองแห่งสตรีทอาร์ตทั้ง 5 เมืองที่เราได้รวบรวมมาให้ได้ชมกัน ใครที่เป็นสายสตรีทอาร์ตบอกเลยว่าต้องไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต เพราะแต่ล่ะที่นั้นมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกัน ซึ่งรอให้คนที่ชื่นชอบในงานศิลปะได้ไปเยือนกัน คราวนี้เราอยากจะแนะนำ!!ซีรีส์วายเรื่องใหม่ “เกียร์สีขาวกาวน์สีฝุ่น” ใครที่ชอบดูละครซีรีส์ต้องดูกันสักครั้ง
เรื่องที่คุณอาจสนใจ : แนะนำ 5 สายพันธุ์สุนัขน่าเลี้ยง!